ผู้คนถามคำถาม, พระเจ้าทรงตอบด้วยพระวจนะของพระองค์
คำถามที่ 10: ท่านเชื่อว่า บราเดอร์บรานฮาม ได้รับการเปิดเผยสำแดงของเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดหรือไม่?
Font Face
Line Height
Paragraph Gap
Font Size
คำตอบ: นี่คือสิ่งที่บราเดอร์บรานฮามกล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในพระธรรมเทศนา ครั้งสุดท้ายของท่านในวันที่ 15 สิงหาคม 1965 “… รอจนกว่าพวกเราจะเข้าไปในการเปิดของพวกภัยพิบัติเหล่านั้น และตราประทับทั้งหลาย และเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ด” ท่านกล่าวไว้เกี่ยวกับเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1963 เมื่อท่านได้ยินเหมือนดั่งเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดและเมฆเหนือธรรมชาติได้ปรากฏขึ้น ดร. เจมส์ แมคโดนัลด์ แห่งมหาวิทยาลัยทูซอนได้ประเมินภาพถ่ายจำนวนมากซึ่งถูกบันทึกไว้และนิตยสารไซเอนซ์ (19 เมษายน 1963) และนิตยสารไลฟ์ (17 พฤษภาคม 1963) ได้ตีพิมพ์บทความทั้งหลายของเขา จากการอ้างอิงถึงประสบการณ์นี้ บราเดอร์บรานฮามได้กล่าวถึงความเชื่อการรับขึ้นไป, นามใหม่ที่จะได้รับการเปิดเผยสำแดง และได้เชื่อมโยงมันกับเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ด้วย
เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดของวิวรณ์ บทที่ 10 จะต้องถูกทิ้งไว้ในบริบทที่พวกเขาถูกวางไว้ในสวรรค์สถานเพราะพวกเขาจะเปล่งเสียงของพวกเขาเฉพาะเมื่อทูตสวรรค์แห่งพันธสัญญาลงมายังอิสราเอล (ตราประทับทั้งเจ็ด, หน้า 72) คำสอนที่เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดเป็น “คุณธรรมทั้งเจ็ด” หรือ “บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด” หรือการตีความอื่นๆ จะต้องถูกปฏิเสธ เพราะพวกมันเป็นเพียงพวกคำอธิบายการรับใช้ด้วยตนเองของบุคคลบางคนเท่านั้น และพวกข้อโต้แย้ง และพวกเขาไม่มีพื้นฐานทางข้อพระคัมภีร์
หลังจากที่บราเดอร์บรานฮามได้เทศนาเรื่อง ตราประทับทั้งเจ็ด ท่านได้รับคำสั่งให้กลับไปยังคริสตจักรและเทศนาสิ่งสำคัญสองสามอย่างท่ามกลางพวกเขาคือ ถ้อยแถลงต่อไปนี้ “… ไม่มีผู้ใดรู้ถึงการเสด็จมาของพระองค์; พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับความลึกลับของเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดนี้ด้วย” (ตราประทับทั้งเจ็ด, หน้า 576)
นักเทศน์ทั้งหลายให้นำมือของพวกท่านออกจากเรื่องนั้นและทิ้งเรื่องนี้ไว้กับพระเจ้า! ยอห์นถูกห้ามมิให้เขียนสิ่งที่เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดได้กล่าวไว้ มันมิได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระวจนะที่เป็นลายลักษณ์อักษรของพระเจ้าและดังนั้นจึงมิอาจจะเทศนาได้ นั่นคือ พระเจ้าตรัสดังนี้ ในพระวจนะของพระองค์ พวกเราได้รับคำสั่งให้เก็บเฉพาะสิ่งเหล่านี้ที่เขียนไว้เท่านั้น (วิวรณ์ 1:1-3) และถูกห้ามมิให้เพิ่มสิ่งใดในคำเผยพระวจนะทั้งหลายในหนังสือเล่มนี้ (วิวรณ์ 22:16-21) นั่นไม่ใช่คำเตือนที่ชัดเจนเพียงพอหรือ?
คำตอบ: นี่คือสิ่งที่บราเดอร์บรานฮามกล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในพระธรรมเทศนา ครั้งสุดท้ายของท่านในวันที่ 15 สิงหาคม 1965 “… รอจนกว่าพวกเราจะเข้าไปในการเปิดของพวกภัยพิบัติเหล่านั้น และตราประทับทั้งหลาย และเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ด” ท่านกล่าวไว้เกี่ยวกับเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1963 เมื่อท่านได้ยินเหมือนดั่งเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดและเมฆเหนือธรรมชาติได้ปรากฏขึ้น ดร. เจมส์ แมคโดนัลด์ แห่งมหาวิทยาลัยทูซอนได้ประเมินภาพถ่ายจำนวนมากซึ่งถูกบันทึกไว้และนิตยสารไซเอนซ์ (19 เมษายน 1963) และนิตยสารไลฟ์ (17 พฤษภาคม 1963) ได้ตีพิมพ์บทความทั้งหลายของเขา จากการอ้างอิงถึงประสบการณ์นี้ บราเดอร์บรานฮามได้กล่าวถึงความเชื่อการรับขึ้นไป, นามใหม่ที่จะได้รับการเปิดเผยสำแดง และได้เชื่อมโยงมันกับเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ด้วย
เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดของวิวรณ์ บทที่ 10 จะต้องถูกทิ้งไว้ในบริบทที่พวกเขาถูกวางไว้ในสวรรค์สถานเพราะพวกเขาจะเปล่งเสียงของพวกเขาเฉพาะเมื่อทูตสวรรค์แห่งพันธสัญญาลงมายังอิสราเอล (ตราประทับทั้งเจ็ด, หน้า 72) คำสอนที่เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดเป็น “คุณธรรมทั้งเจ็ด” หรือ “บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด” หรือการตีความอื่นๆ จะต้องถูกปฏิเสธ เพราะพวกมันเป็นเพียงพวกคำอธิบายการรับใช้ด้วยตนเองของบุคคลบางคนเท่านั้น และพวกข้อโต้แย้ง และพวกเขาไม่มีพื้นฐานทางข้อพระคัมภีร์
หลังจากที่บราเดอร์บรานฮามได้เทศนาเรื่อง ตราประทับทั้งเจ็ด ท่านได้รับคำสั่งให้กลับไปยังคริสตจักรและเทศนาสิ่งสำคัญสองสามอย่างท่ามกลางพวกเขาคือ ถ้อยแถลงต่อไปนี้ “… ไม่มีผู้ใดรู้ถึงการเสด็จมาของพระองค์; พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับความลึกลับของเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดนี้ด้วย” (ตราประทับทั้งเจ็ด, หน้า 576)
นักเทศน์ทั้งหลายให้นำมือของพวกท่านออกจากเรื่องนั้นและทิ้งเรื่องนี้ไว้กับพระเจ้า! ยอห์นถูกห้ามมิให้เขียนสิ่งที่เสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดได้กล่าวไว้ มันมิได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระวจนะที่เป็นลายลักษณ์อักษรของพระเจ้าและดังนั้นจึงมิอาจจะเทศนาได้ นั่นคือ พระเจ้าตรัสดังนี้ ในพระวจนะของพระองค์ พวกเราได้รับคำสั่งให้เก็บเฉพาะสิ่งเหล่านี้ที่เขียนไว้เท่านั้น (วิวรณ์ 1:1-3) และถูกห้ามมิให้เพิ่มสิ่งใดในคำเผยพระวจนะทั้งหลายในหนังสือเล่มนี้ (วิวรณ์ 22:16-21) นั่นไม่ใช่คำเตือนที่ชัดเจนเพียงพอหรือ?