ผู้คนถามคำถาม, พระเจ้าทรงตอบด้วยพระวจนะของพระองค์
คำถามที่ 21: บราเดอร์บรานฮามสอนเรื่อง “พหุสมรส” หรือไม่?
Font Face
Line Height
Paragraph Gap
Font Size
คำตอบ: ช่างเป็นคำถามอะไรกันที่จะถามในโลกศิวิไลซ์! ไม่ครับ ไม่แน่นอน พี่น้องบางคนในประเทศแอฟริกาทั้งหลายซึ่งยังคงปฏิบัติพหุสมรสอยู่ โดยเน้นถ้อยแถลงต่างๆ ที่ผู้เผยพระวจนะได้กล่าวไว้ในเรื่องนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับพวกวิถีทางแห่งตัณหาของตนเอง พวกเขาอ้างถึง อับราฮัม, ยาโคบ, เอลคานาห์, กิเดโอน, ดาวิด และโซโลมอน ฯลฯ การเน้นว่าดาวิดล่วงประเวณีเมื่อเขารับภรรยาของอุรียาห์เท่านั้น หัวข้อเรื่องนี้บอบบางและเข้าใจผิดได้ง่ายที่สุด บราเดอร์ บรานฮามกล่าวว่า “แต่กระนั้นตอนนี้ ตราประทับทั้งหลายนั้นได้ถูกเปิดผนึกออกแล้ว พระวิญญาณแห่งความจริงทรงนำพวกเราไปสู่พระวจนะ สิ่งนั้นอธิบายถึงสาเหตุที่ความผิดพลาดทั้งหมดได้ผ่านลงมายังยุคสมัยทั้งหลายได้เพราะว่าตราประทับทั้งหลายนั้นยังไม่ถูกเปิดผนึกออก สิ่งนี้ไม่ถูกเปิดเผยสำแดง มันเป็นความจริง” (บทที่ B, หน้า 92)
บราเดอร์บรานฮามใช้คำว่า “พหุสมรส” หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระธรรมเทศนาของท่านเรื่อง “การแต่งงานและการหย่าร้าง” (21 กุมภาพันธ์ 1965) เล็งไปที่พันธสัญญาเดิม แน่นอนที่สุดท่านไม่ได้ตั้งใจจะสร้างฮาเร็มเพื่อพี่น้อง พระเจ้าตรัสในพระราชบัญญัติโดยปราศจากการทรงให้เหตุผลว่า “ถ้านายหาหญิงอีกคนหนึ่งมาเป็นภรรยาให้แก่บุตรชาย…” – มิใช่มีภรรยาหลายคน (อพยพ 21:10) ในกรณีนั้นชายคนนั้นต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อทั้งคู่ พระเจ้ายังทรงให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิบุตรหัวปีในกรณีเช่นนี้ (เฉลยธรรมบัญญัติ 21:15-17)
อัครสาวกเปาโลเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ชายทุกคนควรมีภรรยาเป็นของตนและผู้หญิงทุกคนมีสามีเป็นของตน (1 โครินธ์ 7) ในสาระสำคัญบราเดอร์บรานฮามหมายถึงเพียงชี้ให้เห็นเท่านั้นว่า ผู้หญิงนั้นได้รับการทรงสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ชายและไม่ใช่วิธีอื่นๆ (1 โครินธ์ 11:9) นี่คือเหตุผลว่า เหตุใดผู้ชายจึงได้รับอนุญาตให้แต่งงานใหม่หลังจากการหย่าร้างโดยไม่ต้องมีความผิดต่อภรรยาเก่าของเขา อย่างไรก็ตามถ้าหากภรรยาแต่งงานใหม่ ดังนั้นนางจึงมีชีวิตอยู่ในการล่วงประเวณี เพราะว่านางถูกผูกมัดไว้โดยพระราชบัญญัติของพระเจ้าต่อคำมั่นสัญญาของนางตราบเท่าที่เขามีชีวิตอยู่ (โรม 7:2; 1 โครินธ์ 7:39) นั่นคือสิ่งที่เปิดเผยต่อบราเดอร์บรานฮามจากเมฆเหนือธรรมชาติสีอำพันเดียวกันซึ่งปรากฏแก่การเปิดผนึกของตราประทับทั้งหลายด้วย ถ้อยคำเหล่านี้มาจากริมฝีปากของท่าน “สังเกตเห็นไหมครับว่า เขามิอาจจะแต่งงานใหม่ได้ หญิงพรหมจารีเพียงเท่านั้น เขาอาจจะแต่งงานใหม่ได้ เขาอาจจะแต่งงานได้ – เขาอาจจะแต่งงานได้อีกครั้งหนึ่งถ้าหากเป็นหญิงพรหมจารี แต่กระนั้นเขามิอาจจะแต่งงานกับภรรยาของคนอื่นได้ ไม่แน่นอน และถ้าเขาแต่งงานกับผู้หญิงที่หย่าร้าง เขากำลังมีชีวิตอยู่ในการล่วงประเวณี ... สังเกตเห็นไหมครับว่า เขาอาจจะ แต่นางมิอาจจะ เช่นเดียวกับดาวิด เช่นเดียวกับซาโลมอน เช่นเดียวกับความต่อเนื่องของพระคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่ม…” ความแตกต่างกลายเป็นหลักฐาน! “… อย่าให้นางไปมีสามีใหม่ หรือไม่ก็ให้นางกลับมาคืนดีกับสามีเก่า (1 โครินธ์ 7) นางมิอาจจะแต่งงานใหม่ได้ นางต้องอยู่โสด แต่สังเกตเห็นว่าเขาไม่เคยพูดเกี่ยวกับผู้ชาย เห็นไหมครับ พวกคุณมิอาจจะทำให้พระวจนะโกหกได้” (บทที่ 3B, หน้า 91)
ทุกคนควรจะเข้าใจอย่างถ่องแท้เนื่องจากคำชี้แจงของบราเดอร์ บรานฮามได้ให้ไว้หลังจากการได้รับคำตอบโดยตรงต่อปัญหาการแต่งงานและการหย่าร้าง การเปิดเผยตามข้อพระคัมภีร์นี้แตกต่างจากความคิดดั้งเดิมที่สืบทอดมาอย่างสิ้นเชิงและสิ่งที่สอนในนิกายทั้งหลาย ได้แก่ ทุกคนเหล่านั้นที่อ้างว่าพวกเขารู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องสำคัญนี้แล้วจะต้องได้รับการบอกกล่าวว่า พระเจ้ามิอาจจะตรัสกับบุคคลเช่นนั้นได้ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับพระเจ้าที่พระองค์ได้ทรงปรากฏเป็นส่วนพระองค์ในเมฆเหนือธรรมชาติเพื่อจะประทานการเปิดเผยสำแดงครั้งสุดท้ายต่อผู้รับใช้และผู้เผยพระวจนะของพระองค์ ทุกคนที่อ้างสิทธิ์อย่างถูกต้องที่จะเชื่อพระธรรมเทศนา ณ เวลานี้ จะเคารพเรื่องนั้น
คำตอบ: ช่างเป็นคำถามอะไรกันที่จะถามในโลกศิวิไลซ์! ไม่ครับ ไม่แน่นอน พี่น้องบางคนในประเทศแอฟริกาทั้งหลายซึ่งยังคงปฏิบัติพหุสมรสอยู่ โดยเน้นถ้อยแถลงต่างๆ ที่ผู้เผยพระวจนะได้กล่าวไว้ในเรื่องนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับพวกวิถีทางแห่งตัณหาของตนเอง พวกเขาอ้างถึง อับราฮัม, ยาโคบ, เอลคานาห์, กิเดโอน, ดาวิด และโซโลมอน ฯลฯ การเน้นว่าดาวิดล่วงประเวณีเมื่อเขารับภรรยาของอุรียาห์เท่านั้น หัวข้อเรื่องนี้บอบบางและเข้าใจผิดได้ง่ายที่สุด บราเดอร์ บรานฮามกล่าวว่า “แต่กระนั้นตอนนี้ ตราประทับทั้งหลายนั้นได้ถูกเปิดผนึกออกแล้ว พระวิญญาณแห่งความจริงทรงนำพวกเราไปสู่พระวจนะ สิ่งนั้นอธิบายถึงสาเหตุที่ความผิดพลาดทั้งหมดได้ผ่านลงมายังยุคสมัยทั้งหลายได้เพราะว่าตราประทับทั้งหลายนั้นยังไม่ถูกเปิดผนึกออก สิ่งนี้ไม่ถูกเปิดเผยสำแดง มันเป็นความจริง” (บทที่ B, หน้า 92)
บราเดอร์บรานฮามใช้คำว่า “พหุสมรส” หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระธรรมเทศนาของท่านเรื่อง “การแต่งงานและการหย่าร้าง” (21 กุมภาพันธ์ 1965) เล็งไปที่พันธสัญญาเดิม แน่นอนที่สุดท่านไม่ได้ตั้งใจจะสร้างฮาเร็มเพื่อพี่น้อง พระเจ้าตรัสในพระราชบัญญัติโดยปราศจากการทรงให้เหตุผลว่า “ถ้านายหาหญิงอีกคนหนึ่งมาเป็นภรรยาให้แก่บุตรชาย…” – มิใช่มีภรรยาหลายคน (อพยพ 21:10) ในกรณีนั้นชายคนนั้นต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อทั้งคู่ พระเจ้ายังทรงให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิบุตรหัวปีในกรณีเช่นนี้ (เฉลยธรรมบัญญัติ 21:15-17)
อัครสาวกเปาโลเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ชายทุกคนควรมีภรรยาเป็นของตนและผู้หญิงทุกคนมีสามีเป็นของตน (1 โครินธ์ 7) ในสาระสำคัญบราเดอร์บรานฮามหมายถึงเพียงชี้ให้เห็นเท่านั้นว่า ผู้หญิงนั้นได้รับการทรงสร้างขึ้นมาเพื่อผู้ชายและไม่ใช่วิธีอื่นๆ (1 โครินธ์ 11:9) นี่คือเหตุผลว่า เหตุใดผู้ชายจึงได้รับอนุญาตให้แต่งงานใหม่หลังจากการหย่าร้างโดยไม่ต้องมีความผิดต่อภรรยาเก่าของเขา อย่างไรก็ตามถ้าหากภรรยาแต่งงานใหม่ ดังนั้นนางจึงมีชีวิตอยู่ในการล่วงประเวณี เพราะว่านางถูกผูกมัดไว้โดยพระราชบัญญัติของพระเจ้าต่อคำมั่นสัญญาของนางตราบเท่าที่เขามีชีวิตอยู่ (โรม 7:2; 1 โครินธ์ 7:39) นั่นคือสิ่งที่เปิดเผยต่อบราเดอร์บรานฮามจากเมฆเหนือธรรมชาติสีอำพันเดียวกันซึ่งปรากฏแก่การเปิดผนึกของตราประทับทั้งหลายด้วย ถ้อยคำเหล่านี้มาจากริมฝีปากของท่าน “สังเกตเห็นไหมครับว่า เขามิอาจจะแต่งงานใหม่ได้ หญิงพรหมจารีเพียงเท่านั้น เขาอาจจะแต่งงานใหม่ได้ เขาอาจจะแต่งงานได้ – เขาอาจจะแต่งงานได้อีกครั้งหนึ่งถ้าหากเป็นหญิงพรหมจารี แต่กระนั้นเขามิอาจจะแต่งงานกับภรรยาของคนอื่นได้ ไม่แน่นอน และถ้าเขาแต่งงานกับผู้หญิงที่หย่าร้าง เขากำลังมีชีวิตอยู่ในการล่วงประเวณี ... สังเกตเห็นไหมครับว่า เขาอาจจะ แต่นางมิอาจจะ เช่นเดียวกับดาวิด เช่นเดียวกับซาโลมอน เช่นเดียวกับความต่อเนื่องของพระคัมภีร์ไบเบิลทั้งเล่ม…” ความแตกต่างกลายเป็นหลักฐาน! “… อย่าให้นางไปมีสามีใหม่ หรือไม่ก็ให้นางกลับมาคืนดีกับสามีเก่า (1 โครินธ์ 7) นางมิอาจจะแต่งงานใหม่ได้ นางต้องอยู่โสด แต่สังเกตเห็นว่าเขาไม่เคยพูดเกี่ยวกับผู้ชาย เห็นไหมครับ พวกคุณมิอาจจะทำให้พระวจนะโกหกได้” (บทที่ 3B, หน้า 91)
ทุกคนควรจะเข้าใจอย่างถ่องแท้เนื่องจากคำชี้แจงของบราเดอร์ บรานฮามได้ให้ไว้หลังจากการได้รับคำตอบโดยตรงต่อปัญหาการแต่งงานและการหย่าร้าง การเปิดเผยตามข้อพระคัมภีร์นี้แตกต่างจากความคิดดั้งเดิมที่สืบทอดมาอย่างสิ้นเชิงและสิ่งที่สอนในนิกายทั้งหลาย ได้แก่ ทุกคนเหล่านั้นที่อ้างว่าพวกเขารู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องสำคัญนี้แล้วจะต้องได้รับการบอกกล่าวว่า พระเจ้ามิอาจจะตรัสกับบุคคลเช่นนั้นได้ เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับพระเจ้าที่พระองค์ได้ทรงปรากฏเป็นส่วนพระองค์ในเมฆเหนือธรรมชาติเพื่อจะประทานการเปิดเผยสำแดงครั้งสุดท้ายต่อผู้รับใช้และผู้เผยพระวจนะของพระองค์ ทุกคนที่อ้างสิทธิ์อย่างถูกต้องที่จะเชื่อพระธรรมเทศนา ณ เวลานี้ จะเคารพเรื่องนั้น