การเสด็จกลับมาของพระคริสต์

เสียงแตรของพระเจ้า

« »

ตามที่กล่าวไว้ใน 1 เธสะโลนิกา 4: 16 เสียงแตรจะดังขึ้นในการเสด็จกลับมาของพระเจ้าของพวกเรา นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เสียงแตรธรรมดา แต่เป็นเสียงแตรของพระเจ้า ในพันธสัญญาเดิมมีการเป่าแตรในโอกาสพิเศษต่างๆ ตอนที่พระเจ้าได้เสด็จลงมาบนภูเขาซีนาย คนทั้งหลายได้เห็นฟ้าแลบและได้ยินเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องและเสียงแตรนั้นด้วย (อพยพ 20: 18) การเฉลิมฉลองปีที่ห้าสิบ ซึ่งคนทุกคนสามารถเป็นอิสระได้ ได้ประกาศไว้ในวันแห่งการลบมลทินด้วยเสียงแตรด้วยเช่นกัน (เลวีนิติ 25: 9)

ทุกครั้งที่พวกเราอ่านในข้อพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับเสียงแตร มีเหตุการณ์พิเศษต่างๆ ได้เกิดขึ้น พวกเราอ่านเกี่ยวกับเสียงแตรของพระเจ้าในการเชื่อมโยงการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ ในเวลานั้นพระเจ้าทรงบรรลุแผนการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการไถ่สำหรับผู้ที่ได้รับการทรงเลือกสรรของพระองค์ พระคริสต์จะเสด็จกลับมาในวิธีการเดียวกันกับที่พระองค์ได้เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ในสดุดี 47: 5 พวกเราอ่าน “พระเยโฮวาห์เสด็จขึ้นด้วยเสียงโห่ร้อง พระเยโฮวาห์เสด็จขึ้นด้วยเสียงแตร” เมื่อเสียงแตรของพระเจ้าดังขึ้น ผู้ที่ได้รับการไถ่จะได้รับการทรงเรียกไปยังงานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ในพระสิริ อัครสาวกเปาโลอธิบายรายละเอียดถึงวิธีที่เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ที่จะเกิดขึ้นว่า “ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย เพราะว่าจะมีเสียงแตร…” (1 โครินธ์ 15: 52)

พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมากับพระบัญชาอันทรงฤทธานุภาพ–เสียงกู่ก้อง พร้อมด้วยสำเนียงของเทพบดี และเสียงแตรของพระเจ้า พวกผู้ที่ได้รับการทรงเลือกไม่ว่าพวกเขาหลับอยู่หรือเป็นอยู่ในเวลานั้นจะถูกรับไปก่อนที่บ่วงพระพิโรธของพระเจ้า - การพิพากษาทั้งหลาย – ถูกเทลงมาในความทุกข์เวทนาครั้งใหญ่ ทันทีหลังจากเหตุการณ์สำคัญนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับแผนการณ์แห่งความรอด ("การรับไป" ของเจ้าสาวของพระคริสต์) เวลาแห่งพระคุณสำหรับประชาชาติทั้งหลายจะสิ้นสุดลง และพระเจ้าจะทรงกลับมายังประชาชนของพระองค์ พวกคนอิสราเอล – พวกคนยิว ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์พูดเกี่ยวกับเสียงแตรใหญ่ซึ่งจะถูกเป่าในเวลาที่เฉพาะเจาะจงนี้ด้วยเช่นกัน (อิสยาห์ 27: 13)

การเสด็จกลับมาของพระเจ้าจะเกิดขึ้นในทันทีทันใด – เหมือนฟ้าแลบปรากฏขึ้นและในพริบตาเดียว ในเวลานั้นผู้ซึ่งตายแล้วในพระคริสต์จะฟื้นขึ้นก่อน หลังจากนั้นผู้คนเหล่านั้นที่พร้อมอยู่จะถูกเปลี่ยนทางร่างกาย (ได้รับการเปลี่ยนแปลง) พวกเขาจะถูกนำขึ้นไปด้วยกันเพื่อจะพบพระเจ้าในฟ้าอากาศและไปกับพระองค์เข้าไปสู่พระสิริ เหมือนดั่งที่เอโนค คนที่เจ็ดหลังจากที่อาดัมได้ถูกรับไปแล้วและไม่ถูกพบได้ในโลกนี้ ดังนั้นในตอนท้ายของลำดับที่เจ็ด คริสตจักรยุคสุดท้าย คนทั้งหลายเหล่านั้นที่จะมีส่วนร่วมในการรับขึ้นไปจะไม่ถูกพบบนแผ่นดินโลกนี้

ตามที่กล่าวไว้ใน 1 เธสะโลนิกา 4: 16 เสียงแตรจะดังขึ้นในการเสด็จกลับมาของพระเจ้าของพวกเรา นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เสียงแตรธรรมดา แต่เป็นเสียงแตรของพระเจ้า ในพันธสัญญาเดิมมีการเป่าแตรในโอกาสพิเศษต่างๆ ตอนที่พระเจ้าได้เสด็จลงมาบนภูเขาซีนาย คนทั้งหลายได้เห็นฟ้าแลบและได้ยินเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องและเสียงแตรนั้นด้วย (อพยพ 20: 18) การเฉลิมฉลองปีที่ห้าสิบ ซึ่งคนทุกคนสามารถเป็นอิสระได้ ได้ประกาศไว้ในวันแห่งการลบมลทินด้วยเสียงแตรด้วยเช่นกัน (เลวีนิติ 25: 9)

ทุกครั้งที่พวกเราอ่านในข้อพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับเสียงแตร มีเหตุการณ์พิเศษต่างๆ ได้เกิดขึ้น พวกเราอ่านเกี่ยวกับเสียงแตรของพระเจ้าในการเชื่อมโยงการเสด็จกลับมาของพระเยซูคริสต์ ในเวลานั้นพระเจ้าทรงบรรลุแผนการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการไถ่สำหรับผู้ที่ได้รับการทรงเลือกสรรของพระองค์ พระคริสต์จะเสด็จกลับมาในวิธีการเดียวกันกับที่พระองค์ได้เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ในสดุดี 47: 5 พวกเราอ่าน “พระเยโฮวาห์เสด็จขึ้นด้วยเสียงโห่ร้อง พระเยโฮวาห์เสด็จขึ้นด้วยเสียงแตร” เมื่อเสียงแตรของพระเจ้าดังขึ้น ผู้ที่ได้รับการไถ่จะได้รับการทรงเรียกไปยังงานเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ในพระสิริ อัครสาวกเปาโลอธิบายรายละเอียดถึงวิธีที่เหตุการณ์อันยิ่งใหญ่นี้ที่จะเกิดขึ้นว่า “ในชั่วขณะเดียว ในพริบตาเดียว เมื่อเป่าแตรครั้งสุดท้าย เพราะว่าจะมีเสียงแตร…” (1 โครินธ์ 15: 52)

พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมากับพระบัญชาอันทรงฤทธานุภาพ–เสียงกู่ก้อง พร้อมด้วยสำเนียงของเทพบดี และเสียงแตรของพระเจ้า พวกผู้ที่ได้รับการทรงเลือกไม่ว่าพวกเขาหลับอยู่หรือเป็นอยู่ในเวลานั้นจะถูกรับไปก่อนที่บ่วงพระพิโรธของพระเจ้า - การพิพากษาทั้งหลาย – ถูกเทลงมาในความทุกข์เวทนาครั้งใหญ่ ทันทีหลังจากเหตุการณ์สำคัญนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับแผนการณ์แห่งความรอด ("การรับไป" ของเจ้าสาวของพระคริสต์) เวลาแห่งพระคุณสำหรับประชาชาติทั้งหลายจะสิ้นสุดลง และพระเจ้าจะทรงกลับมายังประชาชนของพระองค์ พวกคนอิสราเอล – พวกคนยิว ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์พูดเกี่ยวกับเสียงแตรใหญ่ซึ่งจะถูกเป่าในเวลาที่เฉพาะเจาะจงนี้ด้วยเช่นกัน (อิสยาห์ 27: 13)

การเสด็จกลับมาของพระเจ้าจะเกิดขึ้นในทันทีทันใด – เหมือนฟ้าแลบปรากฏขึ้นและในพริบตาเดียว ในเวลานั้นผู้ซึ่งตายแล้วในพระคริสต์จะฟื้นขึ้นก่อน หลังจากนั้นผู้คนเหล่านั้นที่พร้อมอยู่จะถูกเปลี่ยนทางร่างกาย (ได้รับการเปลี่ยนแปลง) พวกเขาจะถูกนำขึ้นไปด้วยกันเพื่อจะพบพระเจ้าในฟ้าอากาศและไปกับพระองค์เข้าไปสู่พระสิริ เหมือนดั่งที่เอโนค คนที่เจ็ดหลังจากที่อาดัมได้ถูกรับไปแล้วและไม่ถูกพบได้ในโลกนี้ ดังนั้นในตอนท้ายของลำดับที่เจ็ด คริสตจักรยุคสุดท้าย คนทั้งหลายเหล่านั้นที่จะมีส่วนร่วมในการรับขึ้นไปจะไม่ถูกพบบนแผ่นดินโลกนี้